วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ชาวไทใหญ่



ภายหลังอาณาจักรพุกามเสื่อมราวพุทธศตวรรษที่ 18 (ตรงกับสมัยสุโขทัย) ดินแดนที่เป็นประเทศพม่าในปัจจุบันเกือบทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การปกครองราชวงศ์หนึ่งนามว่า “ราชวงศ์เจ้ายูน” ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวไทใหญ่ ที่มีถิ่นฐานอยู่บนที่ราบสูงฉาน หรือพื้นที่ซึ่งเป็นรัฐฉานพม่าในวันนี้และถูกปราบโดยบุเรงนองมหาราชในราวพุทธศตวรรษที่ 20  ไทใหญ่เป็นสาขาหนึ่งของกลุ่มของกลุ่มตระกูลไตหรือไท พวกเขาเรียกตนเองว่า “ไตโหลง” ซึ่งหมายถึง “ไตหลวง” อันเป็นชื่อชนชาติในทางวิชาการว่า “ไทใหญ่” พรมแดนที่แบ่งแคว้นฉานกับล้านนาไทยไม่มีเขตแดนที่แน่ชัดในอดีตกาล ชาวไทใหญ่จึงอพยพไปมาระหว่างสองฟากฝั่งแม่น้ำเมยและสาละวิน บ้างมาค้าขาย บ้างหนีสงครามมา บ้างก็เข้ามาตั้งบ้านทำมาหากินจนกลายเป็นชุมชนใหญ่ ไทยใหญ่ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณพม่า ลาวไทยและในเขต ประเทศ จีน ตอนใต้ ในประเทศไทยพบชาวไทใหญ่อยู่ในจังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ เพชรบูรณ์และ แม่ฮ่องสอน


การแต่งกายของชาวไทใหญ่

ผู้ชายชอบไว้ผมมวยเหมือนผู้หญิง เอาผ้าสีดำ ขาว สีเขียวอ่อนปกเหลือง สีชมพูพันศีรษะ สวมหมวกปีกใหญ่อย่างโคบาลทับผ้าโพกศีรษะอีกชั้นหนึ่งเสื้อกุยเฮงยาวแขนกว้าง มีผ้าทำเป็นเชือกผูกแทนกระดุม กางเกงขากว้างก้นหย่อนสีขาวหรือดำ ทุกคนจะสะพายดาบออกจากบ้าน

ผู้หญิงจะสวมเสื้อทรงกระบอกแขนยาวรัดตัว ผ่าอกป้ายข้างมาทางรักแร้ ใช้สีอ่อนๆ ผ้านุ่งยาวถึงข้อเท้า เพราะป้องกัน ริ้น ยุงแมลงต่างๆ รบกวน ลายของผ้านุ่งเป็นลวดลายของแม่น้ำอิรวดีในประเทศพม่า ผู้หญิงไว้มวยผมโพกศีรษะ ออกจากบ้านจะมีร่มกระดาษถือติดมือไปด้วยเสมอ สวมรองเท้าที่ทำขึ้นใช้เอง มีหัวหงอนและใหญ่


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น